Ant Financial กับการ IPO มูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์

ทำไมดีลนี้ถึงน่าสนใจและน่าติดตาม?? นอกเหนือจากการสร้างประวัติศาสตร์ของการ IPO FinTech ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับมูลค่าที่มากถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 900,000 ล้านบาท แซงหน้ายักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันอย่าง Saudi Aramco ที่ IPO ไป 25,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว

ลืมไป รู้มั้ยครับว่ามูลค่ารวมของตลาดหุ้นไทย SET ของเราเนี่ยรวมทุกบริษัทนี่มีมูลค่า 14.2 ล้านล้านบาทนะครับ คิดดูแล้วกันว่าความยิ่งใหญ่ของ Ant Financial นี่ขนาดไหนกัน ถ้า IPO เรียบร้อย Ant Financial จะเป็นบริษัททางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจาก JP Morgan, ICBC และBank of America

Ant Financial Group ประกอบไปด้วย 6 กลุ่มธุรกิจ

1. Asset Management (Yu’e Bao)
2. Lending (Huabei)
3. Payment (Alipay)
4. Insurance (Xiang Hu Bao)
5. Credit Scoring (Zhima Credit)
6. Digital Banking (MayBank)

ที่เราได้ยินกันบ่อยๆก็ Alipay ซึ่งคือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคนใช้งานกว่า 800 ล้านคนเฉพาะในประเทศจีน แต่ถ้านับรวมประเทศอื่นๆด้วย มีคนใช้ Alipay มากถึง 1,300 ล้านคน และมูลค่าการใช้จ่ายผ่านแอปนี้ในช่วงปีที่ผ่านมากว่า 17 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยนี่เล่นเอาผมนับตัวเลขไม่ถูกเลย 540 ล้านล้านบาทนะครับ นี่ขนาด Alipay เป็นเบอร์สองรองจาก WeChat Pay จากค่าย Tencentนะเนี่ย ซึ่งแน่นอนการใช้จ่ายทั้งตามท้องถนนผ่านการสแกนคิวอาร์ หรือการชำระเงินบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอย่าง Alibaba.com ล้วนทำให้ Ant Financial รู้พฤติกรรมของคนจีนและสามารถเอาไปต่อยอดการให้บริการทางการเงินอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ที่น่าสนใจคือ ธุรกิจการบริหารจัดการการลงทุนในตลาดตราสารทางการเงิน Money Market ที่ชื่อ Yu’e Bao ที่มีผู้ลงทุนกว่า 600 ล้านคน มีเงินลงทุนรวมมากถึง 5.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 16.8 ล้านล้านบาท น่าจะใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว

น้องใหม่อีกอย่างคือ ประกัน ภายใต้ชื่อ Xiang Hu Bao

ที่ตอนนี้มีคนใช้มากกว่า 100 ล้านคนไปแล้ว และคนส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นคนในเมืองรอบนอกและเป็นคนที่รายได้ไม่สูงมาก ซึ่งที่ผ่านมาคนเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงการคุ้มครองด้านสุขภาพได้เลย พอหลังจากที่ Ant Financial นำเสนอประกันผ่านแพลทฟอร์ม Alipay จึงทำให้คนรายได้น้อยเข้าถึงประกันชีวิตและประกันสุขภาพได้มากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามวิชั่นของ แจ็ค หม่า ที่อยากจะสร้าง Financial Inclusion หรือการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับคนจีน

และแน่นอนเวลาที่แพลตฟอร์มพวกนี้เห็นธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากการจับจ่ายใช้สอยทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตั้งแต่จ่ายค่าแท็กซี่ ยันการซื้อรถยนต์ การลงทุน การโอนเงินให้กันระหว่างบุคคล การซื้อประกัน การดูหนังฟังเพลง เล่นเกม ทั้งหมดทั้งมวล ล้วนสามารถเอามาทำเครดิตสกอริ่ง (ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า Zhima Credit) เพื่อเอาไปปล่อยกู้ได้ ซึ่ง Ant Financial เอง

นี่แหละที่สามารถให้กู้เงินผ่านแอป Alipay (บริหารจัดการภายใต้บริษัท Huabei) ได้ภายในแค่เสี้ยววินาที ก็เพราะสามารถใช้ข้อมูลปริมาณมหาศาลเอามาวิเคราะห์รายได้และความเสี่ยงของผู้กู้ และจากที่ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมธุรกิจของ Alibaba และ Ant Financial และในฐานะผู้ที่คร่ำหวอดในเรื่องConsumer Finance ผมนี่อิจฉามากกับการที่ประเทศจีน มีความล้ำสมัย ในการใช้ดาต้ามาทำเรื่องนี้ เพราะการที่สามารถวิเคราะห์คุณภาพผู้กู้ได้มีประสิทธิภาพจะทำให้เกิดหนี้เสียน้อยมาก และแทบไม่ต้องลงทุนเรื่องการติดตามทวงหนี้เลย ซึ่ง NPL ของ Ant Financial ถือว่าต่ำมากๆ ช่วงก่อนโควิดต่ำกว่า 1% เสียอีก พอช่วง โควิดตัวเลขก็วิ่งไปที่ 2%

ที่น่าติดตามหลังจากนี้คือการวางแผนของ Ant Group

ที่จะผันตัวเองไปเป็น Technology Company เต็มตัวจากการสะสมองค์ความรู้ ไม่ว่าจะ Blockchain หรือ AntChain ที่จะกลายเป็น Blockchain Platform ที่รองรับปริมาณธุรกรรมได้สูงสุดในโลก

นี่เฉพาะในกลุ่มของ Ant Group เท่านั้น ยิ่งจีนก้าวสู่ยุด 5G เทคโนโลยี IoT (Internet of things) จะยิ่งกลายเป็นกระแสหลักของการส่งรายการผ่านdevice ต่างๆ อย่างเช่น Face Payment, Contactless Payment, Smart Store และ Smart Travel

แต่ที่ผมคิดว่า Ant Group จะไปไกลกว่านี้คือเรื่อง AI ไม่ว่าจะในเรื่องโมเดลการบริหารความเสี่ยง การปล่อยกู้ และการสร้างโมเดลการขายของที่เราเรียกันว่า Cross Selling ซึ่ง AI สามารถมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงมาก

ที่เล่ามาทั้งหมดเพื่อให้เห็นภาพความใหญ่โตอลังการของกลุ่ม Ant Financial Group ที่หลังจาก IPOแล้วคงต้องติดตามกันต่อไปว่า การเติบโตของ Ant Group จะไปในทิศทางใด และการขยายธุรกิจไปยังประเทศโลกที่สาม จะคืบหน้าไปมากน้อยอย่างไร เอาไว้จะตามมาอัพเดทให้อ่านอีกทีนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : businesstoday.co

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : e-bizenyaki.net